“Beauty with a Purpose” เลน่า-เฮเลน่า บุช รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 จาก BU Inter

เมื่อไม่นานมานี้ นักศึกษาสาวสวยจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลักสูตรนานาชาติ (BU International) ได้นำความสวย สตรอง และมันสมองที่เป็นเลิศ ไปคว้ารางวัลหนึ่งในผู้หญิงที่สวยที่สุดของไทยกับตำแหน่งรองมิสไทยแลนด์เวิลด์อันดับ 2 ประจำปี 2018 เธอผู้นั้นคือ เลน่า-เฮเลน่า บุช ลูกครึ่งไทย-สวีเดน เจ้าของรอยยิ้มหวาน เรือนร่างสูงโปร่ง และที่สำคัญคือความคิดอ่านที่เฉียบคมจนชนะใจกรรมการ

 มุมมองต่อคำว่า “นางงาม” Before & After 
แต่ก่อนเลน่ามีภาพว่านางงามคงเป็นอีกแบบ เป็นคนสวยๆ ที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วแต่ละคนจะเป็นไง แต่พอได้มาอยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ที่เข้าประกวดก็พบว่า ทุกคนใจดี น่ารัก มีความเป็นทีมเวิร์กมากๆ ไม่มีใครอิจฉาใครเลย อย่างตอนไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัด มีการแข่งขันกีฬาเพราะเวทีนี้ไม่ได้ต้องการแค่ผู้หญิงสวย แต่ต้องฟิตมากๆ ด้วย ซึ่งวันนั้นทุกคนก็เต็มที่มากๆ อย่างเช่นเพื่อนที่ชื่อเทวีซึ่งเป็นโรคหอบ เราเห็นว่าเขาพยายามมากจนหายใจไม่ออกและล้มลง ทุกคนก็รีบเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ ทำให้เลน่าเห็นพลังของผู้หญิงว่ามีมากเพียงใด ยิ่งผู้หญิงมาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ก็จะยิ่งสตรอง ช่วยเหลือกัน และทำอะไรได้ทุกอย่างไม่แพ้ผู้ชาย

 ชายและหญิงมีความเท่าเทียมกัน
บางประเทศอาจยังไม่เท่าเทียมกันเท่าไร แต่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะประเทศไทยบทบาทของผู้หญิงก็ดีขึ้นมาก ผู้หญิงได้มีโอกาสแสดงศักยภาพของตัวเองมากขึ้น ยิ่งมีโซเชียลมีเดีย ผู้หญิงยิ่งโชว์ความสามารถและความคิดเห็นได้มากขึ้น แต่อันที่จริงเลน่าก็ไม่เคยคิดว่าผู้ชายกับผู้หญิงจะแตกต่างกันขนาดนั้น แต่อย่างน้อยผู้หญิงจะมีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนกว่า ยกตัวอย่างเช่นนายจ้าง ถ้าเป็นผู้ชายอาจจะสนแต่การทำงานของลูกน้องจนไม่แคร์ว่าใครจะรู้สึกอย่างไร แต่ผู้หญิงจะเห็นอกเห็นใจลูกน้องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวมากกว่า

 ใครๆ ก็บอกว่า “นางงาม” เป็นเรื่องง่ายๆ?
เป็นนางงามไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ อย่างเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์จะเหนื่อยกว่าเวทีอื่นนิดหนึ่ง เพราะเขาต้องการคนเก่งทุกด้านจริงๆ ทั้งความเป็นนางงาม นักกีฬา และต้องทำกิจกรรมการกุศลในโครงการ Beauty with a Purpose ด้วย นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้ที่จะตื่นเช้า นอนดึก มีความรับผิดชอบ ฝึกการเจอคนมากมายที่เราไม่รู้จัก เรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรียนบุคลิกภาพ ทำกิจกรรมมากมาย ซึ่งถ้าเราไม่อยู่ตรงนั้นเราจะไม่มีทางรู้เลย จนเลน่าคิดว่าถ้าผ่านเวทีนี้ไปได้ เลน่าก็ผ่านทุกอย่างได้ (หัวเราะ) เพราะมันท้าทายเราทุกด้านจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกสื่อ ถูกสัมภาษณ์ทุกวัน วันละเป็น 10 รอบ มีกิจกรรมเช้ายันเย็น ต้องยิ้มและมีพลังตลอดเวลา ทั้งๆ ที่เราก็เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง ขนาดคุณพ่อไปดูรอบชิง ท่านมารอดูเรา 2 ชั่วโมง รอรับเรากลับอีก 3 ชั่วโมง รวมเป็น 5 ชั่วโมง ท่านยังบอกว่าแค่นั่งดูเฉยๆ ยังเหนื่อย แล้วเราต้องตื่นหกโมงเช้า เสร็จตีสองครึ่ง จะเหนื่อยขนาดไหน แต่ถามว่าคุ้มไหม ก็ต้องตอบว่าคุ้มมาก เพราะมีความสุขที่ได้เอนเตอร์เทนให้คนอื่นมีความสุขและได้โชว์ความสามารถของเราให้คนอื่นดู

 สิ่งที่ยากที่สุดคือการตอบคำถาม
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับนางงามคือเรื่องตอบคำถาม อย่างเลน่าเองวันนั้นตื่นเต้นบวกกับเบลอๆ เลยฟังคำถามไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ ณ เวลานั้นก็ถือว่าเลน่าทำดีที่สุดแล้ว

 ถ้าย้อนเวลาไปได้ จะตอบว่า?
เลน่าถูกถามว่า ความสวยอย่างมีคุณค่านั้นเป็นอย่างไร ซึ่งเลน่าคิดว่า ความสวยไม่ได้อยู่แค่ภายนอกเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะเห็นว่าบางคนเจอตอนแรกแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก แต่พอยิ่งได้รู้จักเขา ทำไมเขายิ่งน่ารัก ยิ่งดูดี ยิ่งดูสวยขึ้น นั่นเพราะเป็นความดีของเขาที่เปล่งประกายมาจากข้างใน ซึ่งนับเป็นความสวยที่แท้จริง และถ้าเราใช้ความสวยหรือความดีที่ว่านั้นไปช่วยเหลือคนอื่นได้ก็จะเป็นเรื่องที่มีคุณค่ามาก

 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์
เลน่าได้เรียนรู้ศักยภาพตัวเองว่ามีมากกว่าที่เคยคิด เราอาจคิดว่าเราทำได้ แต่ก็มีลิมิต แต่จากการประกวดครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถเลยลิมิตนั้นได้ เพราะตอนแรกเลน่าก็ไม่เชื่อตัวเอง แต่คนอื่นเชื่อในตัวเรา ให้โอกาสเรา จึงเป็นพลังให้เราทำอะไรได้มากกว่าที่คาดคิด และทำให้รู้ด้วยว่า มันคงเป็นอย่างนี้กับทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องประกวดนางงาม

 Beauty with a Purpose
เลน่าอยากทำในสิ่งที่พูดไว้ นั่นคือทำการกุศลเกี่ยวกับการรักษาธรรมชาติ เพราะเลน่าชอบและคิดว่าธรรมชาติเป็นเรื่องสำคัญ ทุกคนควรรู้ผลกระทบจากการทำลายธรรมชาติ เลน่าจึงอยากนำเรื่อง Global Warming มาสอนเด็กตั้งแต่ยังเล็กๆ เพื่อปลูกฝังนิสัยรักษ์โลกให้แก่พวกเขา ตอนนี้เรามักแก้ปัญหาที่ปลายทาง เช่น เก็บขยะ คอยซ่อมโน่นนี่ ทั้งๆ ที่เราควรป้องกันก่อนปัญหาเกิดขึ้น เลน่าจึงอยากให้ความรู้กับคน เพราะคนส่วนใหญ่มักคิดว่าทำลายแค่นี้คงไม่เป็นไร ตอนนี้อาจไม่เป็น แต่ในอนาคตส่งผลกระทบแน่นอน ทั้งปัญหาโลกร้อน น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สัตว์ล้มตาย รวมไปถึงภัยพิบัติต่างๆ นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่อยากทำต่อ ซึ่งถ้าม.กรุงเทพอยากให้เลน่าช่วยรณรงค์เรื่องพวกนี้ เลน่าก็พร้อมจะช่วยเสมอค่ะ