Beyond

8 ความเข้าใจผิดๆ ของการทำการตลาดดิจิทัล

ทุกวันนี้ Digital Marketing หรือการทำการตลาดดิจิทัล ถือเป็นเครื่องมือสำคัญมากสำหรับธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่บางคนอาจเคยตั้งคำถามว่า เราก็ตั้งใจทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเต็มที่แล้ว ทำไมยอดขายไม่กระเตื้องขึ้นอย่างที่คิดเสียที ถ้างั้นลองมาดูซิว่า คุณมัวแต่ติดกับดักอยู่กับความเข้าใจผิดๆ เหล่านี้หรือเปล่า

1.คอนเทนต์ขาดความน่าสนใจ สิ่งสำคัญที่สุดของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งคือคอนเทนต์ เพราะถ้าเนื้อหาไม่ดึงดูดใจเพียงพอ ก็ไม่อาจทำให้ลูกค้าคล้อยตามได้ ซึ่งเนื้อหานั้นควรเป็นการผสมผสานอย่างพอเหมาะระหว่างสาระและบันเทิงไม่ควรให้น้ำหนักด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป

2.ใช้เรื่องโป๊เปลือยมาดึงดูดใจ สืบเนื่องจากข้อ 1 หลายคนคงคิดว่า งั้นเราเอาเรื่องโป๊เปลือยมาสร้างความดึงดูดใจดีกว่า นั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัด! เพราะการขายความเซ็กซี่ (ที่บางครั้งล้ำเส้นไปถึงคำว่าอุจาด) นอกจากจะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายผิดพลาด ยังทำลายภาพลักษณ์ของสินค้าอย่างย่อยยับ ยกตัวอย่างสินค้าบางชนิดที่ใช้พรีเซ็นเตอร์สาวสวย หุ่นเซ็กซี่ มารีวิวสินค้าเสริมความงามซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิง แต่กลายเป็นว่าคนที่เข้ามาดูกลับเป็นผู้ชาย เป็นต้น นอกจากนี้ความโป๊เปลือยก็จะมาบดบังคุณสมบัติของสินค้าไปอย่างน่าเสียดาย และพูดตามตรงก็คือ เมืองไทยมีจารีตประเพณีที่ดีงาม สินค้าอะไรที่นำเสนออย่างผิดจารีต โอกาสจะโดนต่อต้านย่อมมีสูง

3.โพสต์รูปปึกเงินเป็นฟ่อน บอกเลยว่าเทคนิคนี้เอ๊าต์มาก เพราะปัจจุบันผู้บริโภคฉลาดและรู้ทันกันหมดแล้ว

4.รีวิวจัดจ้าง อย่าลืมว่าสังคมออนไลน์นั้นสามารถตรวจสอบหรือติดตามตัวบุคคลได้ง่าย การจัดจ้างคนมาแสดงเป็นลูกค้า แล้วรีวิวสินค้าอย่างเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์จึงไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่ควรโพสต์ความคิดเห็นหรือรีวิวของผู้ใช้สินค้าอย่างจริงใจและตรงไปตรงมามากกว่า

5.ใช้คำพูดที่ไม่สร้างสรรค์ บ่อยครั้งที่คุณอาจเห็นโพสต์ลักษณะว่า ใครที่ไม่ซื้อสินค้าของเขาเป็นคนที่พลาดโอกาสดีๆ ไป บางครั้งอาจเลยเถิดถึงขั้นตำหนิว่าคนที่ไม่ซื้อ=คนโง่เพื่อหวังกระตุ้นให้คนที่เห็นข้อความฉุกคิด แต่อันที่จริงไม่มีใครชอบคำพูดในแง่ลบ ไม่สร้างสรรค์ หรือทำให้รู้สึกต่ำต้อย แทนที่จะเขียนข้อความในลักษณะนั้น จึงควรเขียนให้เห็นว่า สินค้านั้นๆ มีคุณสมบัติอย่างไร ถ้าใช้แล้วจะให้ผลดีอย่างไร

6.ยึดติดกับคำว่ายอดมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นยอดแฟนเพจ ยอดไลก์ ยอดวิว เพราะยอดเหล่านี้เป็นแค่มายาที่ทำให้เชื่อว่าสินค้าของคุณมีโอกาสผ่านตาคนหมู่มาก แต่ตราบใดที่ไม่สามารถเปลี่ยนคำว่ายอดทั้งหลายทั้งมวลให้เป็นยอดขายได้ ก็เท่ากับเป็นความล้มเหลวทางธุรกิจ การทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจและน่าเชื่อถือตามคำแนะนำในข้อ 1 ต่างหากที่จะสามารถสร้างยอดขายได้จริง

7.ใช้รูปแบบคอนเทนต์ที่ซ้ำซาก การสร้างคอนเทนต์สามารถทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ อินโฟกราฟิก วิดีโอคลิป หรือแม้แต่ไลฟ์ ดังนั้นควรใช้รูปแบบที่ต่างกันเพื่อไม่ให้คอนเทนต์ซ้ำซากจำเจ

8.โพสต์ถี่หรือน้อยเกินไป ข้อนี้อยู่ที่ความพอดีล้วนๆ การโพสต์ถี่เกินไปอาจสร้างความรำคาญมากกว่าความน่าสนใจ แต่ถ้ามั่นใจว่าคอนเทนต์ของคุณดีจริงๆ จะโพสต์ถี่เท่าไรคงไม่มีใครว่า ในขณะเดียวกันการทิ้งช่วงก็จะช่วยทำให้เกิดพื้นที่ให้คนตามและเฝ้ารอคอนเทนต์ของเราบ้าง เรียกว่าปล่อยให้ความคิดถึงทำงานนั่นเอง

ข้อมูลจากสาขาวิชาการตลาดดิจิทัล คณะบริหารธุรกิจ .กรุงเทพ

 BACK 


สังคมออนไลน์ในแต่ละแพลตฟอร์มมีคาแรกเตอร์ต่างกัน ฉะนั้นคอนเทนต์ที่จะทำไปป้อนแต่ละแพลตฟอร์มก็ย่อมมีลักษณะแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน

การทำการตลาดดิจิทัลจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ที่ว่าง่ายก็เพราะทุกคนเข้าถึงเครื่องมือและช่องทางทำการตลาดได้ง่ายด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องผ่านสื่อกลางแบบแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไอจี ทวิตเตอร์ หรือยูทูบ แต่ที่ว่ายากก็เพราะด้วยความที่เป็นเครื่องมือซึ่งเข้าถึงได้ง่าย ใครๆ ก็ทำกัน การแข่งขันทั้งจากคู่แข่งและคอนเทนต์อื่นๆ ที่ไหลผ่านหน้าจอคอมพ์และมือถือจึงสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว