ฟลุท – ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร
ฟลุท – ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร
Chinnaphat Kitichaivaranggoon
คณะนิเทศศาสตร์
ผลงานสร้างชื่อ: วัยแสบสาแหรกขาด, ด้วยแรงแห่งรัก, เจ้าหนูเทควันโด
เข้าวงการตั้งแต่อายุเท่าไร
ผมเริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 2 ขวบ งานโฆษณาชิ้นแรกเป็นแป้งเด็กแคร์ แล้วก็เริ่มถ่ายโฆษณามาตลอด จนพอเริ่มรู้เรื่องตอนอายุประมาณ 4-5 ขวบ ก็มีโอกาสได้เล่นละคร หลังจากนั้นก็ถ่ายละครมาเรื่อยๆ
เข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าช่วงเวลาในวัยเด็กขาดหายไปไหม
ขาดแน่นอนครับ แต่ไม่รู้สึกขาดมาก เพราะผมทำงานตั้งแต่จำความไม่ได้ ทำให้ไม่รู้ว่าชีวิตเด็กปกติเป็นอย่างไร เลยรู้สึกเคยชินมากกว่า แต่อาจมีช่วงมัธยมต้น-มัธยมปลายที่อยากเล่นกีฬาสี อยากไปทัศนศึกษากับเพื่อนบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะติดงาน ถามว่าเสียดายไหม ก็เสียดายเหมือนกัน แต่มันก็แลกมาด้วยสิ่งที่เพื่อนๆ อาจไม่ได้ทำเหมือนเรา
ได้อะไรจากการทำงานตั้งแต่เด็ก
เราได้ประสบการณ์ในการทำงาน อาจจะเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเพื่อนๆ และได้เห็นโลกภายนอกเร็วกว่าคนอื่น มีความรับผิดชอบมากขึ้น เพราะได้ทำงานกับผู้ใหญ่ กับคนที่ทำงานจริงๆ และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งเพื่อนวัยเดียวกันอาจไม่มีสิทธิ์ได้ทำเหมือนกับเรา ไม่เหมือนชีวิตในโรงเรียนที่ถ้าเราทำผิด อาจารย์ก็คอยตักเตือนได้ เพราะในชีวิตจริงไม่มีใครสอน ถ้าทำผิดก็จะถูกตีตราว่าผิดทันที นอกจากนี้ยังทำให้เราเข้ากับคนได้มากขึ้น เพราะต้องเจอคนร้อยพ่อพันแม่ ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ที่หลากหลาย ช่วยให้เราแยกแยะคนได้มากขึ้นด้วย
ตอนเป็นเด็ก จริงๆ อยากเป็นนักแสดงเองหรือพ่อแม่สนับสนุนเป็นหลัก
ตอนเข้าวงการตอนแรก เพราะคุณพ่อคุณแม่สนับสนุน แต่พอทำมาเรื่อยๆ ก็พบว่า เราชอบตรงนี้จริงๆ ทำให้ผมเลือกเรียนด้านนิเทศศาสตร์ ถ้าให้ผมไปเรียนอย่างอื่นคงไม่อิน จะให้โตไปเป็นวิศวะ เป็นหมอ ไม่มีทางเห็นผมเป็นแบบนั้นแน่นอน
เคยมีช่วงที่หายหน้าไปจากวงการบ้างไหม
ผมโชคดีที่ไม่ค่อยมีช่วงที่หายหน้าไป แต่มีช่วงที่มีงานน้อย ผมว่านักแสดงเด็กต้องเจอกันทุกคน นั่นคือ ช่วงเปลี่ยนถ่ายระหว่างเด็กไปเป็นผู้ใหญ่ ช่วงเสียงแตก จะเล่นบทเด็กก็ไม่ได้ เล่นบทโตก็ไม่ได้ ช่วงนั้นก็จะหายๆ ไปบ้าง แต่โชคดีที่ผมเป็นนักพากย์ เป็นพิธีกรด้วย ซึ่งไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ทำได้ เลยทำให้ยังมีงานในวงการตลอด
นอกจากเป็นนักแสดงแล้ว อยากทำอย่างอื่นด้วยไหม
ผมชอบร้องเพลง ทำเพลง แต่งเพลง โดยทำ MV ถ่าย MV เองทุกอย่าง ตอนนี้ผมยังไม่มีค่ายเพลง แต่กำลังรวบรวมเพื่อนทำวงดนตรีแนวป๊อปร็อกอยู่ น่าจะเปิดตัวประมาณกลางปีนี้ อันที่จริงคุณพ่อผมเป็นสายนักร้องนักดนตรีมาก่อน เราเลยได้ซึมซับมา ได้เรียนเปียโนตั้งแต่เด็ก ส่วนพี่ชายเรียนกีตาร์ อยู่บ้านก็เล่นดนตรี ฟังเพลง เรียกว่าเป็นพรสวรรค์ที่ได้รับมา ทำให้ตอนโตชอบดนตรีมาก
การแสดงกับเล่นดนตรีชอบอะไรมากกว่ากัน
ผมชอบการแสดง เวลามีบทที่ท้าทาย แต่ขณะเดียวกันก็ชอบดนตรีมาก เพราะได้เป็นตัวของตัวเองแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ว่าจะตอนอยู่บนเวทีหรืออยู่ข้างล่างเวที ส่วนการแสดงเราไม่ได้เป็นตัวเอง เพราะต้องแสดงเป็นคนอื่น เป็นตัวละครนั้น ตัวละครนี้ ซึ่งอาจจะต่างจากตัวจริงของผมที่ชอบเป็นตัวของตัวเองมากๆ
ผลงานแสดงเรื่องไหนของตัวเองที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ
น่าจะละครเรื่อง วัยแสบสาแหรกขาด ครับ เป็นบทที่ท้าทายมาก เพราะต้องเล่นบทเป็นเด็กออทิสติก เป็นการถ่ายทอดให้คนในสังคมเข้าใจคนที่มีอาการออทิสติกมากขึ้น พอเล่นเรื่องนี้จบไป เดินไปไหน จะมีคนที่มีอาการออทิสติกเดินเข้ามาคุย เข้ามากอด เขาบอกว่า ขอบคุณมากที่ผมถ่ายทอดได้เหมือนมากและทำให้คนทั่วไปเข้าใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น การแสดงจึงไม่ใช่แค่เล่นเพื่อเอาตังค์ แต่ได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วยซ้ำ
ทราบมาว่า ฟลุทชอบทำงานเพื่อสังคม
ผมทำหลายอย่าง เช่น ถ้ามีงานอะไรที่ได้ช่วยเหลือคน ผมไปให้ฟรีเลย ไม่ต้องบอกค่าตัว อยากช่วยก็ไปเลย อย่างไปสถานสงเคราะห์ต่างๆ หรือไปช่วยเหลือคนตามดอยก็ไปตลอด เรียกว่าถ้ามีโอกาสทำความดี ผมก็จะทำเสมอ
ทำไมถึงชอบช่วยเหลือคนอื่นๆ
คือสมัยก่อนคุณพ่อคุณแม่ชอบพาไปทำบุญที่วัด แต่หลังๆ มานี้ผมเริ่มไม่ค่อยทำบุญ เพราะไม่รู้ว่าจะเห็นผลเมื่อไร แต่ชอบช่วยคนอื่นแบบเดินๆ ไปแล้วก็ช่วยเลยมากกว่า เพราะการทำให้คนอื่นมีความสุข เราก็จะได้ความสุขทันทีแบบไม่ต้องรอ
ชอบและไม่ชอบอะไรในเด็กวัยรุ่นยุคนี้บ้าง
ผมว่าเด็กสมัยนี้ตามกระแสกันมากเกินไป ขาดความเป็นตัวเอง อย่างถ้ามีใครฮิตอะไร แต่งตัวอย่างไร ก็พยายามจะเล่นจะแต่งตัวตามๆ กัน ทำให้ไม่มีความแตกต่าง ส่วนผมเป็นคนชอบงานศิลปะ ชอบทำเพลง เลยอยากที่จะทำอะไรให้แตกต่าง อันที่จริงก็ไม่ใช่ข้อเสียหรือเรื่องที่ผิดหรอกนะครับ แต่เป็นความไม่ชอบส่วนตัวของผมมากกว่า ส่วนข้อดีของเด็กสมัยนี้ก็คือ เปิดรับอะไรมากขึ้น มีกลุ่มคนที่เข้าใจโลกมากขึ้นและพยายามที่จะพัฒนาสังคมจริงๆ