ตุ้ย-วีรวัฒน์ จีนสุกแสง กับหน้าที่ Microsoft Student Partners (MSP) 2 ปีซ้อน ผู้เปิดประสบการณ์ Work/Learn/Play งาน เรียน และเล่น คือเรื่องเดียวกัน

“คนเก่งไม่น่ากลัวเท่าคนขยัน” 

นี่คือคำกล่าวที่โดนใจเราของตุ้ย-วีรวัฒน์ จีนสุกแสง นักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ผู้มีดีกรีความเก่งสอบผ่าน 3 ใบ MOS Certificate ของ Microsoft Office Specialist Certificate และเป็นหนึ่งในทีม Microsoft Student Partners (MSP) ประเทศไทย 2 ปีซ้อน

MSP นั้นเป็นโครงการที่ไมโครซอฟท์คัดเลือกนักศึกษาผู้มีความสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีคุณสมบัติเหมาะสม ให้เข้ามาร่วมงานและเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ จากไมโครซอฟท์ จากนั้นก็ต้องนำประสบการณ์ความรู้ไปแบ่งปันให้เพื่อนๆ และอาจารย์ในสถาบันต่ออีกที นับเป็นโครงการที่บ่มเพาะผู้เรียนให้เป็นผู้สอน ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้ผ่านการสอบคัดเลือกแค่ไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นก็คือตุ้ย-วีรวัฒน์นี่เอง

MSP ของประเทศไทยไม่ได้เป็นเพราะโชคช่วย

ผมเริ่มเข้ามาเป็นหนึ่งในทีม Microsoft Student Partners ของบริษัทไมโครซอฟท์ บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลกตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 นอกจากตัวเราที่เป็นคนพอรู้และศึกษาเครื่องมือไมโครซอฟท์ รวมถึงการเขียนโปรแกรมมาบ้างแล้ว อีกคุณสมบัติหนึ่งของคนที่จะมาเป็นทีมได้นั้นจะต้องเป็นคนที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ ชอบเรียนรู้ต่อยอด ไม่นิ่งเฉยต่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่หมุนอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา 

มูลค่ามากเกินถึงขนาดมีเงินก็ซื้อไม่ได้

ผมเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมมากๆ ไม่ว่าจะของคณะหรือมหาวิทยาลัย จิตอาสาที่ไหนเล็กใหญ่ขอให้ผมได้รู้ ผมจะหาเวลาเข้าร่วมด้วยตลอด อย่างการเข้าร่วมเป็นตัวแทน MSP ต้องมีหน้าที่เผยแพร่ความรู้กับผู้เข้าอบรมในมหาวิทยาลัยของตัวเองและตามมหาวิทยาลัยหรือสถานที่ต่างๆ ผลตอบแทนที่ได้อาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของเงินหรือสิ่งของ แต่มาในรูปแบบของประสบการณ์ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผมได้เพื่อนต่างมหาวิทยาลัยที่ชอบในเรื่องเดียวกัน ได้รับประสบการณ์การทำงานกับมืออาชีพ แถมยังได้คอนเน็กชั่นกับพวกพี่ ๆ ในวงการการทำงานตัวจริง 

ความชอบยามว่างกลายเป็นพรแสวงที่คุณก็ทำได้

ผมเป็นคนชอบหาโปรแกรมมานั่งเขียนเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง หรือบางครั้งก็ลองทดสอบหาช่องโหว่ตามเว็บต่างๆ เล่นครับ (หัวเราะ) อาจฟังดูแปลกๆ แต่ลองดูจะพบว่าสนุกดีนะ ฝึกฝีมือของเราด้วย ผมเป็นคนพยายามทำต่างๆ ที่ยากๆ ชอบหาแบบฝึกหัดต่างๆ มาลองทำ เรื่องไหนที่ไม่เข้าใจก็พยายามค้นหาจากอินเทอร์เน็ต เพราะผมเชื่อว่าการได้ลองลงมือทำจริง ๆ จะทำให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดแล้ว เพราะผมเชื่อว่าคนเก่งไม่น่ากลัวเท่าคนขยัน 

เลือกสิ่งที่ชอบ รับรองว่าสนุก

แต่ก่อนอาจจะมีช่วงที่เคยไม่ตั้งใจเรียนบ้าง อาจเพราะคิดว่าเราไม่ชอบในสายที่เรียนนั้นจริงๆ จึงเริ่มลองคุยกับตัวเองและมองหาสิ่งที่ชอบจนหาตัวเองเจอ นับตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้ผมอยู่กับสิ่งที่เรารักเราชอบ เวลาจะทำอะไรก็สนุกไปหมด เหมือนการเรียนเป็นสนามเด็กเล่นแห่งหนึ่งเลยครับ มีเรื่องให้ตื่นเต้น น่าค้นหาตลอดเวลา ยิ่งเจอโจทย์ที่ยากๆ ก็เหมือนลองตะลุยเข้าด่านผ่านเลเวลต่างๆ ยิ่งทำให้สนุกในการเพิ่มสกิลความรู้ 

มหาวิทยาลัยคือช่วงเวลาที่ได้ค้นหาตัวเอง

ในชีวิตมหาวิทยาลัยมีอะไรใหม่ ๆ ให้ลองเล่นเยอะแยะมากมาย อีกทั้งมหาวิทยาลัยยังสนับสนุนในการทำกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย นอกจากกิจกรรมภายในแล้ว ม.กรุงเทพยังสนับสนุนให้เราร่วมโครงการภายนอกที่จัดแข่งเพื่อให้เราเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ กิจกรรมดีๆ เหล่านี้มีเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ค้นหาความชอบของตัวเองได้ง่ายที่สุดแล้วครับ 

ตุ้ยนับเป็นตัวอย่างของนักศึกษารุ่นใหม่ที่สนองตอบเป้าประสงค์ของม.กรุงเทพ ที่ต้องการสร้างมหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ เปิดประสบการณ์ Work/Learn/Play หลอมรวมเรื่องงาน เรื่องเรียน และเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องเดียวกันด้วยการทำความร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก อันเป็นการสร้างความพร้อมให้นักศึกษาออกไปสู่โลกของการดำเนินชีวิตจริงที่จำเป็นต้องให้มุมทั้งสามด้านนั้นอยู่รวมกันอย่างกลมกลืน เพื่อจะได้เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตในสังคมยุคใหม่อย่างมีความสุขทุกนาที 

ซึ่งจากคำพูดของตุ้ย ทำให้เรามั่นใจเหลือว่า เขาต้องเป็นคนที่มีความสุขทุกนาทีสมดังความตั้งใจของมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน