“โห…แก Mass แล้วว่ะ!!!” จ๋า-ชนิกานต์ สิทธิอารีย์ ศิษย์เก่านิเทศ สาวหน้านิ่งจากโฆษณาดัง
ไม่นานนี้มีโฆษณาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเจ้าหนึ่งปล่อยโฆษณาออกมาจนเกิดเป็นกระแส Viral อย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องราวของเพื่อนสาวหน้านิ่ง 2 คนที่พยายามหาเรื่องคุยกับคนอื่นด้วยเรื่องแมสส์ๆ
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในนักแสดงที่ทำหน้านิ่งได้ใจจนเรียกเสียงฮาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะช็อตขี่มอเตอร์ไซค์ยกล้อนั้น คือศิษย์เก่าเอกโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ เธอชื่อว่า จ๋า–ชนิกานต์ สิทธิอารีย์ ปัจจุบันทำหน้าที่เป็น Senior Copywriter ผู้สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาปังๆ มาแล้วหลายชิ้นของบริษัทเอเยนซีโฆษณา GreynJ United วันนี้เราไปทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นด้วยความอยากรู้ว่า ตัวจริงของจ๋าจะหน้านิ่งเหมือนที่ได้ดูหรือเปล่า
“จ๋าเรียนนิเทศ เอกโฆษณา รหัส 50 ปัจจุบันเป็น Creative Copywriter คอยคิดไอเดีย คำพูด ภาษาให้โฆษณา ทั้งภาพนิ่ง ทีวี และออนไลน์” จ๋าแนะนำตัวด้วยใบหน้านิ่งๆ ตามสไตล์
ทำไมถึงชอบการทำโฆษณา
ตอนเด็กๆ จ๋าจะชอบดูโฆษณา แล้วชอบคิดไปเรื่อยๆ ว่าถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไง เลยตัดสินใจเรียนเอกโฆษณา จ๋ารู้สึกว่าการทำโฆษณาสนุกตรงที่เรื่องราวมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ งานไม่เคยซ้ำเดิม และต้องตามกระแสโลก ตามคนดูให้ทัน ทำให้เหมือนไม่ได้อยู่กับที่
คิดว่านักโฆษณาที่ดีต้องเป็นยังไง
นักโฆษณาต้องเข้าใจมนุษย์เพราะเราต้องสื่อสารกับคนที่ไม่เหมือนกันเลยแต่ละทาร์เก็ต ต้องเป็นคนชอบสังเกต แรกเลยคือต้องสังเกตตัวเองก่อน เพราะอินไซด์ของคนเราไม่ต่างกันหรอก มนุษย์ก็คือมนุษย์ อยู่ที่ว่าเราเข้าใจหรือเปล่า ถ้าสังเกตตัวเองแล้วยังไม่เข้าใจ ก็ต้องสังเกตคนอื่น
โฆษณาที่ไม่ชอบเป็นแบบไหน
จ๋าไม่ชอบงานประเภทที่เอาแต่ขายของ พูดถึงแต่ตัวเอง แต่ไม่ทำให้คนดูรู้สึกไปกับมัน เหมือนเวลาเราคุยกับคนคนหนึ่ง แล้วเขาพูดถึงแต่เรื่องตัวเอง หรือไม่ก็โฆษณาประเภทเน้นตลกหรือเป็น Viral แต่สุดท้ายไม่สามารถเทิร์นเป็นยอดขายได้ คนจดจำแบรนด์ไม่ได้ แต่ก็เข้าใจนะเพราะนิสัยคนไทยชอบตลกหรือไม่ก็ดราม่าไปเลย
ช่วยเล่าขั้นตอนการทำงานให้ฟังหน่อย
แรกเลยก็คือรับบรีฟจาก AE หรือแพลนเนอร์ที่ไปคิดกลยุทธ์มา จากนั้นมาคุยกับทีมครีเอทีฟ ถ้าโจทย์ไม่เคลียร์ก็ต้องคุยให้เคลียร์ว่าจะไปทิศทางไหน เราเป็นคนคิดว่าจะตลก ดราม่า หรือแบบไหน นอกเสียจากลูกค้าจะระบุมาอย่างชัดเจน เมื่อเคลียร์แล้วก็แยกย้ายกันไปคิด ช่วยกันตบไอเดีย พอสรุปได้โครงคร่าวๆ แล้วก็ไปคุยกับ AE และแพลนเนอร์ ถ้าโอเคก็มาลงที่ดีเทล สคริปต์ ทำเป็นสตอรี่บอร์ดไปขายลูกค้า อย่างโฆษณาที่จ๋าเล่น เราได้ Key Message จากลูกค้าแค่ว่า เขาอยากให้พูดว่ามีคนใช้ผลิตภัณฑ์ของเขาเยอะ แต่โจทย์ที่ชัดเจนคือต้องเป็น Viral ซึ่ง Viral ก็มีไม่กี่แบบหรอก เราเลยเลือกตลกเพราะผลิตภัณฑ์เป็นแอปฯ ที่วัยรุ่นใช้เยอะ
จริงๆ แล้วเราทำงานเบื้องหลัง แล้วมาเล่นโฆษณานี้ได้ยังไง
พี่เต๋อ (เต๋อ–นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์) ซึ่งเป็นผู้กำกับคงเห็นแววเราตั้งแต่แรก เลยบอกมาทางหัวหน้าว่าอยากให้จ๋าลองไปแคสต์ พี่เต๋อก็ลองเอาบทให้เล่นโดยให้ลองเล่นทั้งแบบนิ่งและไม่นิ่ง สุดท้ายตอนนิ่งมันตรงกับภาพที่เขาวาดไว้ เขาเลยเลือกให้เล่นแบบนี้ ตอนไปแคสต์ก็แค่รู้สึกว่าอยากลองนะ แต่ลึกๆ คิดว่าไม่น่าจะผ่าน เพราะเราไม่ค่อยชินกับกล้องหรือการเล่นต่อหน้าคนอื่น กลายเป็นว่าเขาคงชอบความเด๋อของเรามั้ง (ยิ้ม)
แล้วตัวจริงเหมือนในโฆษณาหรือเปล่า (แต่เราขอบอกว่า หน้าเธอนิ่งเหมือนในโฆษณามาก–ก–ก)
ก็คล้ายๆ นะคะ คือปกติจะคุยกับเพื่อนสนิท ถ้าไม่รู้จักก็จะเงียบๆ เพราะไม่รู้จะคุยอะไร (เคยมีใครต่อว่าบ้างหรือเปล่า—เราถาม) ก็มีคนว่าเยอะนะ (หัวเราะนิดๆ) คือเราชอบฟังมากกว่า บางทีขี้เกียจพูด รู้ว่าถ้าพูดไปปากหมาแน่ๆ เลยเพราะเป็นคนปากหมา พูดอะไรไปบางทีคนฟังชอบคิดว่าเราโกรธอยู่หรือเปล่า แต่การฟังก็ดีนะตรงที่พอเราพูดอะไรที คนอื่นจะฟังเราเพราะเราเงียบมานาน (หัวเราะ) และการฟังยังทำให้รู้อะไรเยอะ ได้หยุดคิดก่อนที่จะพูด
ฟีดแบ็กโฆษณาเป็นยังไง มีคนทักบ้างไหม
ไม่ค่อยมีคนทักนะ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนกันหรือที่รู้จักกันอยู่แล้ว (เพราะตัวจริงสวยกว่า—อันนี้เป็นความเห็นของเรา ซึ่งเป็นเรื่องจริง ไม่ได้โม้) และจ๋าก็ไม่คิดว่าจะดัง พอได้รับฟีดแบ็กที่ดีก็ดีใจ เพราะคนดูจำแบรนด์ได้ มีคนโหลดแอปฯ ไปใช้ แสดงว่าประสบความสำเร็จในแง่ของความเป็นโฆษณา
คิดว่าการเรียนที่ม.กรุงเทพ ทำให้เราได้อะไรบ้าง
ตอนนั้นแม่อยากให้เรียนที่นิเทศฯ ม.กรุงเทพ เพราะเห็นว่าค่าเทอมพอๆ กับที่อื่น แต่ม.กรุงเทพมีอุปกรณ์ครบกว่าและภาษีดีกว่าที่อื่น พอมาเรียนก็ไม่ผิดหวังเพราะได้ทำงานจริงๆ เยอะ อีกอย่างคือจ๋าชอบห้องล้างฟิล์มที่เป็นห้องมืด คุยกับเพื่อนมหา’ลัยอื่น เขาบอกว่าไม่มี เลยรู้สึกว่าโชคดีที่มีโอกาสทำแบบนี้ และก็ชอบห้องสมุดเพราะมีหนังสือดีๆ และราคาแพงแบบเราไม่มีปัญญาซื้อเยอะมาก ถึงแม้จ๋าจะไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไร แต่ก็รู้สึกว่าได้อะไรจากที่นี่เยอะ
ในอนาคตจะรับงานแสดงอีกหรือเปล่า
สนุกที่ได้เล่นนะคะ แต่งานหน้าขอดูบทก่อน (หัวเราะ)
จากสาวน้อยหน้านิ่งที่ชอบอยู่เงียบๆ ชอบฟังมากกว่าพูด และไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แต่ตอนนี้เราคงต้องขอยืมประโยคในโฆษณามาบอกเธอละว่า “โห—แก Mass แล้วว่ะ!!!”