Beyond

ที่พักแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรนะ???

hotel

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักได้หลากหลายประเภท แต่บางครั้งอาจยังสับสนว่า แท้ที่จริงแล้วประเภทที่พักที่เรียกขานกันนั้น เป็นที่พักลักษณะไหนกันแน่ โดยเฉพาะในเมืองไทยที่ค่อนข้างเรียกอย่างสับสนปนกันไปหมด วันนี้เราจึงจะมาไขความกระจ่างว่า นอกเหนือจากโรงแรมหรือ Hotel แล้ว ที่พักแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะตัวอย่างไร

Hostel

โฮสเทล (Hostel) เป็นที่พักราคาประหยัดไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องพักรวมเรียกว่า Dormitory ที่มีเตียงหลายเตียง เช่น เตียง 2 ชั้น อยู่ในห้องเดียวกัน ห้องน้ำใช้ร่วมกัน (แต่ปัจจุบันหลายแห่งก็มีห้องส่วนตัวบริการด้วย) บางแห่งแบ่งห้องชาย-หญิงเพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ ที่พักประเภทนี้เหมาะสำหรับคนงบน้อยและชอบพบปะผู้คน เพราะมักมีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้เหล่าแบ็กแพ็กเกอร์นั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

Bed-and-Breakfast

เบดแอนด์เบรกฟาสต์ (Bed and Breakfast หรือ B&B) ที่พักประเภทนี้มีคอนเซ็ปต์คือให้บริการที่พักพร้อมอาหารมื้อเช้าเท่านั้นตรงตัวตามชื่อ ส่วนใหญ่เป็นบ้านของคนในพื้นที่ที่เปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ร่วมชายคาเสมือนเป็นคนในครอบครัว อารมณ์คล้ายกับ AIRBNB ที่นำที่พักสไตล์ B&B มาสร้างเป็นคอมมูนิตี้

Homestay

โฮมสเตย์ (Homestay) มีลักษณะคล้าย B&B คือเปิดบ้านตัวเองให้คนเข้าพัก แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือมักจะให้อยู่กินเหมือนเจ้าบ้าน เสิร์ฟอาหารหลายมื้อ แต่เป็นสำรับเดียวกันกับที่เจ้าบ้านรับประทาน พร้อมพาไปเที่ยวชุมชนเพื่อให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตพื้นถิ่น เช่น ถ้าไปอยู่ในชุมชนทำน้ำตาล เจ้าบ้านก็จะพานักท่องเที่ยวไปเก็บมะพร้าว แล้วนำมากวนน้ำตาล กลางวันก็กินอาหารร่วมกัน เป็นลักษณะของที่พัก + กิจกรรม + อาหาร

เกสต์เฮ้าส์ (Guesthouse) มีความคล้ายโรงแรมมากที่สุด แต่ย่อส่วนทั้งขนาดและบริการลงมามาก โดยอาจมีเพียงห้องพักกับอาหารเช้าไว้บริการ เน้นราคาย่อมเยา สิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างจำกัด ปัจจุบันบางแห่งบริการห้องพักแบบ Dormitory ด้วย ทำให้แยกเกสต์เฮ้าส์กับโฮสเทลออกจากกันแทบไม่ออก

Guesthouse

เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ (Serviced Apartment) เน้นการพักอาศัยระยะยาวมากกว่า 4 คืนขึ้นไป มีบริการ Housekeeping เหมือนโรงแรม บริการอาหารด้วยหรือไม่ก็ได้ หน้าตาที่พักมักคล้ายห้องในคอนโด มีเตา หม้อ ภาชนะสำหรับทำอาหารเบาๆ เตรียมไว้ให้ บางที่จะกำหนดการจองขั้นต่ำ เช่น 4 คืน หรือ 1 สัปดาห์

โมเต็ล (Motel) เมืองไทยใช้คำว่าโมเต็ลมาเรียกขานโรงแรมม่านรูด แต่อันที่จริงโมเต็ลซึ่งมีต้นแบบมาจากอเมริกานั้น เป็นการผสมระหว่างคำว่า Motor และ Hotel เพราะตั้งอยู่ข้างๆ ทางหลวงเพื่อเป็นที่พักแรมทางให้แก่นักท่องเที่ยว ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องมีที่จอดรถ จะบริเวณหน้าห้องหรือลานจอดก็ได้ และไม่ใช่ไว้ประกอบกิจกรรมบางอย่างเหมือนในเมืองไทย

Resort

รีสอร์ต (Resort) เมืองไทยเอะอะก็เรียกรีสอร์ต แต่จริงๆ แล้วรีสอร์ตต่างจากโรงแรมตรงที่โลเกชั่น รีสอร์ตมักตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว เช่น ทะเล ภูเขา น้ำตก ส่วนใหญ่สร้างเป็นหลังๆ หรือถ้าเป็นตึกก็ไม่สูงนัก เน้นเป็นตึกแนวราบ ในขณะที่โรงแรมมักมีลักษณะเป็นตึกสูง ตั้งอยู่ในเมือง ดังนั้นถ้าเป็นที่พักซึ่งเป็นตึกสูง อยู่ในเมือง จึงควรเรียกว่าโรงแรมมากกว่ารีสอร์ตนั่นเอง

 BACK